Positive Thinking คืออะไร คิดบวก เข้าไว้ เจออะไรก็ไม่กลัว

Positive Thinking คืออะไร ? คิดบวก เข้าไว้ เจออะไรก็ไม่กลัว!

เคยเป็นมั้ย ไม่ว่าจะเห็นอะไรก็จะต้องรู้สึกหงุดหงิดหรือขัดใจไปหมด ด้วยสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในตอนนี้ที่มักจะมีแต่เรื่องไม่ดีให้เราต้องรับรู้อยู่ตลอด การที่จะทำให้ตัวเองนั้นมีอารมณ์ที่ดีจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากมากจริง ๆ แต่ถ้าปล่อยให้อารมณ์ร้าย ๆ เหล่านั้นครอบงำอยู่ตลอดก็คงจะไม่ดีเป็นแน่ แม้จะทำได้ยาก แต่ก็อยากให้ทุกคนได้ลองปรับเปลี่ยนการคิดใหม่ หันมาสนใจการคิดบวกหรือ Positive Thinking ดู อาจจะทำให้เราได้เห็นมุมมองอะไรใหม่ ๆ และยังทำให้จิตใจของเขาแจ่มใสขึ้นไม่น้อย ซึ่งเจ้า Positive Thinking นี้คืออะไร และจะต้องมีการคิดแบบไหนถึงจะเป็นการคิดบวกอย่างแท้จริง วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน

Positive Thinking คืออะไร

Positive Thinking คือ ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นการใช้ความคิดในทางบวกนั่นเอง ในทุก ๆ เรื่องที่เราต้องเผชิญในแต่ละวันนั้นก็มักจะมีทั้งเรื่องที่ดีและร้ายเข้ามาอยู่เสมอ ถ้าเป็นเรื่องที่ดีก็สามารถรับมือได้ง่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องร้าย ๆ ล่ะ เราจะรับมืออย่างไรดี โดยสิ่งที่จะทำให้เรื่องไม่ดีเหล่านั้นเบาบางลงได้ สิ่งแรกก็คือความคิดของเรานั่นเอง การที่คิดว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่แย่ และยากเกินกว่าที่จะรับมือได้ สิ่งที่ตามมาก็คือผลลัพธ์ที่แย่มากนั่นเอง แต่บางทีถ้าเราปรับความคิดเป็นว่า เรื่องราวเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายที่เราต้องลองรับมือ ลองแก้ปัญหาดู เป็นเหมือนโจทย์ยาก ๆ ข้อหนึ่ง แต่ยังไงก็ต้องมีทางแก้อย่างแน่นอน จากความรู้สึกหดหู้ในตอนแรกก็จะกลายเป็นความตื่นเต้น หรือรู้สึกท้าทายก็เป็นได้ เพียงแค่ปรับความคิดและมองในทางบวกเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เรื่องราวเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันแล้ว

จากคำกล่าวที่ว่า ‘ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว’ นั้นก็เป็นคำพูดที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ซึ่งคำกล่าวนี้ก็เป็นหลักการที่ต้องเริ่มต้นจากความคิดของตัวเรานั่นเอง ร่างกายของคนเรานั้นจะเป็นอย่างไรส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของตัวเอง ถ้ามีจิตใจที่มั่นคง แม้สภาพร่างกายจะไม่ได้แข็งแรงเต็มที่ แต่ก็สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงเหมือนกับจิตใจนั่นเอง ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยมะเร็งระยัสุดท้ายที่ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่ด้วยมีจิตใจที่มั่นคง และเชื่อมั่นว่าตัวเองจะต้องหาย ก็สามารถรับการรักษาจนร่างกายฟื้นฟูได้เป็นอย่างดี กลับกันแล้ว ถ้าจิตใจของผู้ป่วยไม่มั่นคง คิดแต่เรื่องร้าย ๆ ก็จะทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนความเครียด ส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้อาการป่วยทรุดลงกว่าเดิม ดังนั้น แม้จะอยู่ในช่วงที่ย่ำแย่ที่สุด แต่ถ้าคุณพยายามปรับความคิดของตัวเองให้คิดบวกได้ ก็จะช่วยให้ทั้งร่างกายและจิตใจของคุณรู้สึกดีขึ้นแน่นอน และมากไปกว่านั้นก็มีกระบวนการคิดในเชิงต่างๆ ที่กำลังเป็ฯที่นิยมในปัจจุบัน นั้นก็คือ Design Thinking และ Critical thinking นั้นเอง

วิธีคิดบวก Positive Thinking เติมพลังใจให้ตัวเอง และคนรอบข้าง

  1. เริ่มต้นจากการมองตัวเองในแง่ดี เป็นขั้นตอนพื้นฐานของการเริ่มต้นทุกอย่างก็คือการเริ่มจากตัวเอง วิธีง่าย ๆ ก็คือ มองหาข้อดีของตัวเอง สำรวจจุดแข็งและจุดอ่อน รักตัวเองแต่ก็ต้องไม่หลงตัวเองเช่นกัน และพยายามหาวิธีเพิ่มข้อดีให้ตัวเองอยู่เสมอ
  2. เมื่อมองตัวเองในแง่ดีแล้ว ก็ต้องเริ่มมองคนอื่นในแง่ดีด้วย ควรจะคิดไว้เสมอว่ามนุษย์ทุกคนไม่มีใครเกิดมาแล้วสมบูรณ์แบบ ทุกคนล้วนมีข้อผิดพลาดและข้อเสีย ถ้าหากว่าเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้ถึงขั้นคอขาดบาดตาย หรือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ก็สามารถมองข้ามได้ การใช้ชีวิตร่วมกันโดยการพยายามมองข้อดีของเขาก็จะทำให้คุณไม่รู้สึกแย่ และยังทำให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเพิ่มขึ้นด้วย
  3. ในวิกฤตต่าง ๆ ล้วนมีโอกาสอยู่เสมอขอเพียงคุณมองเห็น เป็นเรื่องที่ต้องใช้การคิดบวกอย่างแท้จริง เพราะเวลาที่คนเราเจอปัญหานั้น สิ่งแรกที่คิดก็มักจะเป็นเรื่องร้าย ๆ ที่กำลังเผชิญอยู่ ผลลัพธ์ต่าง ๆ ก็มักจะมีแต่เรื่องแย่ ๆ แต่ถ้าคุณลองมองมุมอื่นนอกจากปัญหาที่เจออยู่ตรงหน้าบ้าง อาจจะทำให้เห็นอะไรที่ดีหรือมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เช่น ถ้าคุณโดนคนรักหักรัก แอบไปมีกิ๊ก ถ้าคุณเอาแต่โมโหหรือโทษตัวเองก็มีแต่จะรู้สึกแย่ แต่ถ้าคิดว่าก็ดีแล้วที่จับได้ คุณจะได้เลิกกับคนที่ไม่ดี และมีโอกาสไปเจอคนใหม่ ๆ ที่อาจจะดีกว่านี้ก็ได้ แค่นี้ก็ทำให้สถานการณ์ที่ดูเลวร้ายดีขึ้นแล้ว
  4. การบอกเรื่องดี ๆ กับตัวเอง เช่น ถึงแม้ไม่มีใครชมคุณแต่คุณก็สามารถชมตัวเองได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวันนี้คุณเก่งที่สุด สวยที่สุด ทำได้ดีแล้ว จะเรื่องเล็กหรือใหญ่คุณก็สามารถให้กำลังใจตัวเองได้เสมอ
  5. ใช้คำว่าขอบคุณให้เป็นประโยชน์ แม้ว่าคุณจะเจอเรื่องราวเลวร้ายแค่ไหน แต่ถ้าคุณยิ้มรับกับมันได้ และสามารถขอบคุณสิ่งที่เข้ามาเป็นแบบทดสอบให้คุณได้ นั่นแปลว่าคุณเป็นคนที่เข็มแข็งขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว

สรุป ความคิดแบบ Positive Thinking

ถึงแม้ว่าการคิดบวกจะเป็นวิธีที่ช่วยสร้างพลังใจให้อย่างไม่คาดคิด แต่ก็ต้องคิดเสมอว่าการคิดบวกนั้นจะต้องไม่ทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อน และไม่เป็นการพยายามปกปิดข้อเสียโดยการเอาข้อดีมาบังหน้า ถ้ามีปัญหาจริง ๆ ก็ต้องได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง จึงจะเป็นการคิดบวก Positive Thinking ที่แท้จริง และทำให้คุณมีความสุขในการใช้ชีวิตนั่นเอง

อ้างอิง :
https://blog.jobthai.com/