Return on Asset คืออะไร ในทางธุรกิจ Return on asset (ROA) เป็นอัตราส่วนทางการเงินตัวนึงที่ใช้เปรียบเทียบ “กำไรสุทธิ” กับ “สินทรัพย์” ยิ่งมีค่าสูงเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะแปลว่าบริษัทนั้นใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันไปสร้าง “กำไรสุทธิ” ได้สูง
แต่การที่ Return on Asset มีค่าต่ำแปลว่าบริษัทนั้นไม่สามารถใช้งานสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการที่ Return on Asset มีค่าสูงหรือต่ำนั้นเราควรที่จะนำ Return on Asset ไปเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือว่าเทียบค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมนั้นๆ
Return on Asset คืออะไร
Return on asset (ROA) อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์เป็นอัตราส่วนทางการเงินระหว่างกำไรสุทธิกับสินทรัพย์รวม ซึ่งวัดผลออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ บอกว่าบริษัททำกำไรได้มากน้อยเท่าไรเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัทนั้น
สูตรในการคำนวณ Return on Asset
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ Return on asset (ROA) = (EBIT x 100) / รวมสินทรัพย์ (เฉลี่ย) มีหน่วยเป็น % โดยที่ EBIT (Earnings Before Interest Tax) หมายถึงกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี
ตัวอย่างในการคำนวณ Return on Asset
บริษัท รุ่งโรจน์ จำกัด มีสินทรัพย์รวมเฉลี่ยเท่ากับ 1,500,000 บาทและมีกำไรสุทธิเท่ากับ 600,000 บาท จะคำนวณหา ROA ของบริษัท รุ่งโรจน์ จำกัด ดังนี้
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) = (600,000/1,500,000) x 100 = 40%
จากการคำนวณจะพบว่า Return on Asset ของบริษัทรุ่งโรจน์เท่ากับ 40% หมายถึงว่าสินทรัพย์ทุก 100 บาท จะทำผลกำไรเท่ากับ 40 บาท
Return on Asset ที่ดีควรเป็นอย่างไร ?
อันดับแรกค่า Return on Asset ที่ดีควรมีค่าที่สูง ยิ่งสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแสดงประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทได้ดีเท่านั้นเพราะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ได้ลงทุนไปให้เกิดกำไรมากกว่าเงินต้น
ต่อมาคือการเทียบค่า Return on Asset กับบริษัทในกลุ่มธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเดียวกันเท่านั้นเพราะแต่ละธุรกิจอาจมีค่าเฉลี่ย Return on Asset ด้วยลักษณะเฉพาะของธุรกิจเนื่องจากสินทรัพย์ที่ต้องใช้ในการดำเนินกิจการ เช่น ธุรกิจรีสอร์ทมีสินทรัพย์ที่มากกว่าธุรกิจอื่น ๆ ต้องมีอสังหาริมทรัพย์จึงอาจทำให้ Return on Asset น้อยกว่าเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นโดยเฉพาะธุรกิจที่ไม่ต้องใช้สินทรัพย์อย่างอสังหาริมทรัพย์หรือเครื่องจักร เป็นต้น
Return on Asset บอกอะไรเราได้บ้าง ?
- แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทและประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ให้เกิดรายได้
- การคำนวณจากกำไรสุทธิ/สินทรัพย์รวม (สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน)
- Return on Asset ค่ายิ่งสูงยิ่งดีบอกว่าบริษัทบริหารสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ค่าที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 12% – 15%
- Return on Asset ควรจะดูเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันเพราะถ้าอุตสาหกรรมต่างกัน Return on Asset มักจะต่างกันสูงไม่สามารถเปรียบเทียบได้
- Return on Asset สูงขึ้นในแต่ละปี เมื่อเทียบปีต่อปีก็บอกความสามารถของบริษัทในการลงทุน
- Return on Asset มากกว่า 5% ถือว่าดีแต่ถ้ามากกว่า 20% คือยอดเยี่ยม
- ถ้าเป็นบริษัทที่มีหนี้สินสูงก็ควรจะใช้ Return on Asset ในการคำนวณวัดความสามารถ
Return on Asset วัดความสามารถและประสิทธิภาพของผู้บริหาร
ค่าของ Return on Asset เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่แสดงถึงความสามารถในการบริหารสินทรัพย์จากที่บริษัทนั้นได้ลงทุนในสินทรัพย์ไปทั้งที่ดิน อาคาร ตึก เครื่องจักร เป็นต้น ผู้บริหารมีประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์อย่างไร ส่งผลให้เกิดเป็นรายได้และกลับคืนมาเป็นกำไรให้บริษัท การที่จะเลือกลงทุนในบริษัทดีๆ นั้น สิ่งที่ต้องพิจารณาด้วยคือ Return on Asset ที่จะบ่งบอกผู้ถือหุ้นถึงความสามารถในการทำกำไรและความสามารถที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น
ข้อควรระวังสำหรับ Return on Asset
ไม่สามารถเทียบกับบริษัทในต่างอุตสาหกรรมได้เพราะบางอุตสาหกรรมบริษัทต้องใช้สินทรัพย์จำนวนมหาศาลในการสร้างกำไร บางอุตสาหกรรมไม่จำเป็นต้องใช้สินทรัพย์ขนาดนั้นก็สร้างกำไรได้เหมือนกัน เช่น สมชายสามารถวาดรูปได้ขายกำไรรูปละ 100-500 บาท แต่มีสินทรัพย์เป็นเพียงกระดาษกับดินสอซึ่งต้นทุนไม่ถึง 20 บาท หรือพนักงานมอเตอร์ไซต์วินรับจ้างก็จะต้องมีสินทรัพย์ราคา 20,000 – 40,000 บาท สร้างกำไรได้เที่ยวละ 20-30 บาท
ซึ่งตัวอย่างทั้งสองต่างกันมากไม่สามารถเทียบได้เพราะคนละอุตสาหกรรม แต่ตัวอย่างทั้งสองอาจจะไม่ถูกต้อง 100% แต่ก็น่าจะพอเห็นภาพได้