สะพัด Meta บริษัทแม่ของ Facebook เตรียมปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เพื่ออัปเกรดให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เมื่อมีการเผยแพร่จดหมายเปิดผนึงจาก Altimeter Capital Management ส่งถึง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Meta ระบุว่า Facebook จำเป็นต้องปรับลดตำแหน่งงานและหั่นรายจ่ายที่นำไปใช้ในการลงทุนลง
เมื่อ Facebook ต้องเผชิญกับปัญหาขาดความเชื่อมั่นจากนักลงทุนอย่างรุนแรงหลังทุ่มเงินลงทุนจำนวนมหาศาลไปกับ Metaverse เพียงโปรเจ็กต์เดียวทำให้กองทุน Hedge Fund ด้านเทคโนโลยีที่มีหุ้นอยู่เพียง 0.1 เปอร์เซนต์ออกมาเสนอแผนปรับโครงสร้าง 3 ขั้นตอน
Altimeter ชี้ว่ากระแสเงินสดอิสระประจำปีของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรือ 40,000 ล้านดอลลาร์สรัฐฯ หากมีการปรับลดจำนวนพนักงานลงอย่างน้อยร้อยละ 20 หั่นรายจ่ายสำหรับการลงทุนในแต่ละปีออกไปอย่างน้อย 5,000 ถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจำกัดวงเงินต่อปีในการลงทุนกับโครงการ Metaverse ให้เหลือเพียง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แทนที่จะเป็น 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างที่เป็นอยู่
Meta ใช้เงินไปนับพันล้านดอลาร์เพื่อจ้างพนักงานจากทั่วโลกในการสร้าง Metaverse หรือสภาพแวดล้อมดิจิตอลที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี AR เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่สามารถแชร์และใช้งานร่วมกัน แต่ความฝันของ Meta ก็ต้องมาสะดุดลงเมื่อ Reality Labs ยูนิตที่ดูแลงานด้าน AR ให้กับบริษัทต้องประสบกับภาวะขาดทุนถึง 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
Altimeter บอกว่าการลงทุนอย่างมโหฬารไปกับอนาคตที่ยังมองไม่เห็นในครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่เกินตัวและน่าสะพรึงกลัวเกินไป แม้จะอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดของทาง Silicon Valley ก็ตาม ขณะที่หลายๆ แพลตฟอร์มจาก Meta ซึ่งมีกำหนดที่จะต้องรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 หลังตลาดหุ้นปิดในวันพุธที่จะถึงนี้ก็ไม่ได้ให้ความเห็นในทันทีหลังถูก Reuters สอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี Brad Gerstner ประธานใหญ่ของ Altimeter ซึ่งเคยออกมากระตุ้นการลงทุนอย่างดุเดือดในเทคโนโลยี AI กล่าวว่าบริษัทเพียงต้องการมีส่วนร่วมกับ Meta และไม่เคยมีข้อเรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น ส่วน Facebook เพิ่งปรับลดแผนการว่าจ้างพนักงานตำแหน่งวิศวกรลงร้อยละ 30 เป็นอย่างน้อยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Zuckerberg ออกโรงเตือนพนักงานให้เตรียมพร้อมเผชิญกับสภาะเศรษฐกิจช่วงขาลง