หน้ากากอนามัยคืออะไร รอบรู้การใช้อย่างถูกวิธี

ในช่วงนี้ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ๆ ก็จะพบเห็นผู้คนสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งตัวเราเองก็ต้องป้องกันและสวมแมสก่อนออกจากบ้านเสมอ ๆ โดยก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เราอาจพบเห็นการใช้อุปกรณ์เหล่านี้จากแพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันหน้ากากอนามัยกลายเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทุกคนต้องมีและเรียนรู้เพื่อใช้อย่างถูกวิธี ในหัวข้อแรกเราจะมารู้จักว่า หน้ากากอนามัยคืออะไร กันก่อน

หน้ากากอนามัยคืออะไร

หน้ากากอนามัย เป็นอุปกรณ์หรือหน้ากากที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเชื้อโรค มลพิษ และของเหลวจากภายนอก ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจจนทำให้เป็นปัญหาต่อสุขภาพ และหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพ สามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสจากคนสู่คนได้ จะต้องมีชั้นกรองอย่างน้อย 3 ชั้น ผลิตจากผ้าหรือพลาสติกพอลิโพรไพลีน ซึ่งมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้

ประเภทของหน้ากากอนามัย            

หน้ากากอนามัย ที่นิยมใช้กันทั่วไป สามารถแบ่งตามลักษณะและประสิทธิภาพในการกรองอากาศ ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ หน้ากากอนามัยแบบทั่วไป และหน้ากากอนามัย N95 ทั้ง 2 ประเภท มีลักษณะรวมทั้งข้อดีข้อด้อยและการใช้งานแตกต่างกัน ดังนี้

หน้ากากอนามัยแบบทั่วไป

หน้ากากอนามัยประเภทนี้ ใช้ในวงการแพทย์เป็นส่วนใหญ่ เพราะแนบกระชับกับใบหน้าได้ดี สามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคผ่านอาการไอหรือจามได้ แต่มีข้อด้อย คือ ไม่สามารถป้องกันสารปนเปื้อนจากการสูดดมได้

หน้ากากอนามัย N95

หน้ากากอนามัย N95 เป็นหน้ากากที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าหน้ากากอนามัยแบบทั่วไป เนื่องจากสามารถป้องกันเชื้อโรคขนาดเล็กและสารปนเปื้อนไม่ให้เล็ดลอดผ่านได้ ด้วยลักษณะการใช้ที่ครอบลงไปยังบริเวณปากและจมูกอย่างมิดชิด ส่วนใหญ่นิยมใช้ในวงการแพทย์ที่ต้องการความปลอดภัยจากการติดเชื้อสูง เช่น ป้องกันการติดเชื้อวัณโรค อีกทั้งยังใช้ในการการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีหรือการใช้สีที่อาจทำให้ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ ส่วนการเลือกใช้หน้ากากอนามัยประเภทนี้ จะต้องเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพและขนาดที่เหมาะสม เพื่อส่งผลต่อประสิทธิภาพในการกรองอากาศและป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี

หน้ากากอนามัย ใครบ้างควรสวมใส่

หน้ากากอนามัย เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สามารถใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัย วัตถุประสงค์ในการใช้ก็เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากตัวเองไปยังผู้อื่น หรือป้องกันไม่ให้ตัวเองติดเชื้อจากผู้ป่วยคนอื่น ๆ รวมทั้งสวมใส่เพื่อป้องกันตนเองจากมลพิษต่าง ๆ ดังนั้นกลุ่มคนที่ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย ได้แก่

  • ผู้ที่ต้องอยู่ใกล้หรือมีการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และญาติพี่น้องที่ต้องดูแลผู้ป่วย
  • ผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจซึ่งต้องใกล้ชิดกับคนปกติ หรือต้องออกไปนอกบ้าน
  • ผู้ที่ต้องเข้าไปยังบริเวณเสี่ยงติดเชื้อ หรือสถานที่ที่มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรงพยาบาล หรือสถานที่ที่มีคนแออัด
  • ผู้มีประวัติเดินทางไปสถานที่เสี่ยง ซึ่งเป็นแหล่งของโรคระบาดหรือใกล้ชิดผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากโรคระบาด
  • ผู้ที่อยู่ในพื้นที่แออัดและต้องการป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสต่าง ๆ เช่น รถสาธารณะ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์
  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ มีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ และต้องเดินทางออกนอกบ้านหรือเดินทางไปในแหล่งชุมชน
  • ผู้ที่ทำงานอยู่ในแหล่งที่มีกลิ่นสารเคมีต่าง ๆ เช่น กลิ่นสี กลิ่นน้ำมัน และอื่น ๆ
  • ผู้ที่ต้องทำความสะอาด และต้องพบเจอกับฝุ่นละออง และน้ำยาทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ

ขั้นตอนการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี

  • ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่หรือล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ติดอยู่บริเวณมือ
  • เลือกขนาด หรือประเภทของหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมกับการใช้งานหรือพอดีกับใบหน้า ทดสอบความพอดีของหน้ากากโดยใช้มือทั้งสองข้างทาบบริเวณหน้ากาก แล้วลองหายใจ หากหน้ากากพอดีกับใบหน้าเวลาหายใจเข้าหน้ากากจะยุบตัว หายใจออกหน้ากากจะพองตัวออก
  • สวมหน้ากากอนามัยให้พอดีกับใบหน้า โดยหันด้านที่มีสีออก และให้ด้านที่มีลวดอยู่ด้านบน กรณี เป็นหน้ากากอนามัยชนิดไม่มีสี ให้สังเกตรอยพับของหน้ากากอนามัย หากมุมของรอยพับชี้ลงด้านล่างด้านนั้นจะเป็นด้านนอกของหน้ากากอนามัย
  • เมื่อใส่หน้ากากอนามัยเรียบร้อยแล้ว ให้ดึงหน้ากากปิดบริเวณปาก จมูก และคาง ตรวจสอบความเรียบร้อยว่าหน้ากากอนามัยแนบสนิทกับใบหน้าหรือไม่

ข้อควรระวังสำหรับการใส่หน้ากากอนามัย

  • ควรเลือกชนิดหน้ากากที่เหมาะสมกับกิจกรรม เพื่อสะดวกต่อการสวมใส่ได้ตลอดเวลา นอกจากช่วยป้องกันโรค ยังลดการถอดหน้ากาก และลดการสัมผัสหน้ากากส่วนที่สกปรก
  • การสวมหน้ากากอนามัยที่ถูกวิธี คือการสวมหน้ากากให้คลุมปิดปากและจมูก รัดหน้ากากให้กระชับ เพื่อลดช่องว่างระหว่างใบหน้ากับหน้ากาก
  • เมื่อสวมแล้วให้หลีกเลี่ยงการจับตัวหน้ากาก เวลาถอดห้ามจับบริเวณด้านหน้าของหน้ากาก แต่ให้จับสายคล้องหูแทน
  • หลังจากถอดแล้ว ไม่ควรใช้หน้ากากซ้ำ
  • ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทันทีที่รู้สึกว่าหน้ากากเริ่มชื้น

หน้ากากอนามัย ถือเป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้เราปลอดภัยจากเชื่อ ไวรัส จากเชื้อโรคและฝุ่นละอองและมลภาวะที่เป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ การเลือกหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมกับกิจกรรม และสวมใส่อย่างถูกวิธีก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจหรือมลพิษต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

thechetter

นักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้