งบกำไรขาดทุน จะเป็นตัวช่วยบอกให้เราทราบว่าผลการดำเนินงานของบริษัทช่วงเวลานั้น ๆ เป็นอย่างไร รวมถึงทำให้เรารู้ว่าบริษัทมีรายได้เท่าไร มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างและธุรกิจมีกำไรเท่าไร อีกทั้งงบกำไรขาดทุนเป็นงบการเงินที่นักธุรกิจส่วนใหญ่สนใจมากที่สุด ซึ่งงบการเงินมีหลายประเภท เช่น งบดุล งบกระแสเงินสดและงบกำไรขาดทุน เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วหากพูดถึงภาพรวมหน้าตาของงบกำไรขาดทุนก็จะเป็นดังนี้คือ รายได้ – ค่าใช้จ่ายทั้งหมด = กำไร
งบกำไรขาดทุนคืออะไร
งบกำไรขาดทุนเป็นงบที่แสดงให้เห็นถึงผลประกอบการและผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งงบกำไรขาดทุนจะแสดงให้เห็นถึงรายได้ กำไรสุทธิ ค่าใช้จ่ายของบริษัท เช่น หากบริษัทรุ่งโรจน์มีรายได้ 50,000 บาท มีค่าใช้จ่าย 20,000 บาท มีกำไรสุทธิ 30,000 บาท ในปี 2563 ซึ่งหมายความว่าช่วงวันที่ 1 มกราคม 2565 – 31 ธันวาคม 2565 บริษัทรุ่งโรจน์มีรายได้ 50,000 บาท มีค่าใช้จ่าย 20,000 บาท และมีกำไรสุทธิ 30,000 บาท (รายได้ 50,000 – ค่าใช้จ่าย 20,000 บาท) เป็นต้น
โครงสร้างงบกำไรขาดทุน
งบกำไรขาดทุนสามารถแบ่งประเภทการแสดงได้ใน 2 รูปแบบคือ
1. งบกำไรขาดทุนแบบขั้นเดียว
รูปแบบงบกำไรขาดทุนแบบขั้นเดียวจะเน้นความเรียบง่ายโดยจะรวมยอดรายได้เอาไว้ด้วยกันในส่วนของรายได้ เช่นรายได้จากการขาย การบริการ รายได้อื่น ๆ และรวมค่าใช้จ่ายไว้ด้วยกันในส่วนของค่าใช้จ่าย เช่น ต้นทุนขาย ต้นทุนบริการ ค่าใช้จ่ายการขาย การบริหาร เมื่อนำรายได้ – ค่าใช้จ่าย ก็จะได้กำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ และเมื่อนำมาหักกับค่าใช้จ่ายทางการเงิน ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ก็จะได้กำไรสุทธิของกิจการ สำหรับแนวทางการเขียนงบกำไรขาดทุนแบบขั้นเดียวจะมีดังนี้
- รายได้ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากการขายและรายได้อื่น ๆ
- ค่าใช้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายประเภท ต้นทุนขาย ดอกเบี้ยจ่ายต่าง ๆ
- กำไรก่อนภาษีเงินได้ก็มาจากภาษีเงินได้
- กำไรหรือขาดทุนสิทธิ
2. งบกำไรขาดทุนแบบหลายขั้น
รูปแบบงบกำไรขาดทุนแบบหลายขั้นจะเน้นให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของบริษัท โดยจะนำรายได้จากการขายและให้บริการหักออกจากต้นทุนขายและบริการก่อนเพื่อให้เห็นกำไรขั้นต้น จากนั้นค่อยแสดงรายได้อื่น ค่าใช้จ่ายในการขาย การบริหาร ก็จะได้กำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ เมื่อนำมาหักกับค่าใช้จ่ายทางการเงิน ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จะได้กำไรสุทธิของกิจการ หน้าตาของงบกำไรขาดทุนแบบหลายขั้นจะประกอบไปด้วย
- รายได้ประกอบไปด้วยรายได้จากการขาย รายได้อื่น รวมรายได้ ค่าใช้จ่ายหักต้นทุนขาย
- กำไรขั้นต้น
- หักค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
- กำไรจากการดำเนินงานบวกรายได้อื่น หักค่าใช้จ่ายอื่น
- กำไรก่อนหักภาษีเงินได้
- กำไรหรือขาดทุนสุทธิ
องค์ประกอบที่งบกำไรขาดทุนต้องมีอะไรบ้าง
- รายได้ (Income) หมายถึงสินทรัพย์ที่กิจการได้รับมาจากการประกอบกิจกรรมซึ่งจะมีเป็นรายได้จากการขาย รายได้จากการเช่าหรือบริการ รายได้จากการลงทุน รวมถึงรายได้อื่น ๆ
- ค่าใช้จ่าย (Expense) เป็นต้นทุนขายค่าใช้จ่ายในการขายจากการบริการ ต้นทุนทางการเงิน
- กำไรหรือขาดทุนสุทธิ (Profit or Loss) เป็นยอดรวมรายได้ที่หักด้วยยอดรวมค่าใช้จ่าย ต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้
รูปแบบของงบกำไรขาดทุน
1. แบบรายงาน (Report Form)
งบกำไรขาดทุนแบบรายงานเป็นรายงานที่แบ่งออกได้อีก 3 ตอน ซึ่งจะมีตอนแรกเป็นส่วนของรายได้ ต่อไปเป็นส่วนของรายจ่ายและตอนที่สามจะแสดงถึงกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิในการจัดทำงบกำไรขาดทุนแบบรายงานประกอบด้วยรายการตามนี้
- ส่วนหัวงบมี 3 บรรทัด คือบรรทัดแรกเขียนว่า “ชื่อกิจการ” ส่วนบรรทัดที่ 2 เขียนคำว่า “งบกำไรขาดทุน” บรรทัดที่ 3 ให้เขียนระยะเวลาที่จัดทำงบกำไรขาดทุน
- ต่อไปเขียนคำว่า “รายได้” ฝั่งซ้ายมือแล้วก็เอาบัญชีรายได้หลักและรายได้อื่นของกิจการมาลงรายการ โดยเขียนเยื้องไปทางขวามือและเขียนจำนวนเงินในทางขวามือจากนั้นรวมยอดรายได้ทั้งหมด
- จากนั้นเขียน “ค่าใช้จ่าย” โดยเขียนทางซ้ายมือให้ตรงกับรายได้และนำเอาบัญชีค่าใช้จ่ายทีเกิดขึ้นเขียนเยื้องไปทางขวาเล็กน้อย แล้วเขียนจำนวนเงินทางขวามือและรวมยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- สุดท้ายเป็นการหาผลต่างระหว่างยอดรวมรายได้และยอดรวมของค่าใช้จ่าย หากรายได้เยอะกว่าจ่ายผลต่างจะเป็น “กำไรสุทธิ” หากรวมแล้วรายจ่ายเยอะกว่ายอดรวมรายได้ผลต่างจะออกมาเป็น “ขาดทุนสุทธิ”
2. แบบบัญชี (Account Form)
งบกำไรขาดทุนแบบบัญชีเป็นแบบที่แสดงรายการในรูปแบบตัวที T ยังมีแบ่งออกได้อีก 2 ด้านคือ ซ้าย (เดบิต) บันทึกรายการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและขวา (เครดิต) ที่บันทึกรายการเกี่ยวกับรายได้ การทำงบกำไรขาดทุนแบบบัญชีนั้นในเอกสารมีสามส่วนด้วยกัน
- เขียนส่วนหัวงบ 3 บรรทัด
- ต่อไปลงรายการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทางด้านซ้ายมือ ลงมาตามลำดับให้ลงรายการเกี่ยวกับรายได้ทางด้านขวามือเรียงลงมาตามลำดับ
- เป็นการรวมยอดของรายได้ให้เขียนกำไรสุทธิไว้ทางด้านซ้าย (เดบิต) และส่วนของขาดทุนสุทธินั้นให้เขียนทางด้านขวา (เครดิต)
สรุปงบกำไรขาดทุนเป็นงบที่มีความสำคัญมากที่สุดที่เราควรดูแลและให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ๆ เนื่องจากงบกำไรขาดทุนจะทำให้เราเห็นภาพรวมผลการดำเนินงานและผลประกอบการของบริษัทว่ามียอดขาย รายได้ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ที่สำคัญทำให้เราเห็นกำไรสุทธิของกิจการได้อีกด้วย